ความฝันอันสูงสุดของใครหลาย ๆ คน คงจะหนีไม่พ้นการมีบ้านเป็นของตัวเองสักหนึ่งหลัง แต่บางคนก็ต้องฝันสะดุดเพราะมีประวัติติดแบล็คลิสต์หรือเครดิตบูโร จนทำให้ไม่สามารถยื่นเรื่องขอกู้ซื้อบ้านกับทางธนาคารหรือสถาบันการเงินได้ ซึ่งปัญหาการติดแบล็คลิสต์หรือเครดิตบูโร ก็ถือได้ว่าเป็นปัญหาที่ค่อนข้างจะใหญ่เลยทีเดียวค่ะ แต่ก็ใช่ว่ามันจะไม่มีทางแก้ไข แต่อาจจะต้องใช้ความพยายามและความมีระเบียบวินัยทางการเงินที่มากขึ้น เพื่อแก้สถานะเครดิตบูโรให้กับมาเป็นปกติและจะได้ยื่นเรื่องขอกู้ซื้อบ้านกับทางธนาคารหรือสถาบันการเงิน และในวันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยกันค่ะว่า “ติดแบล็คลิสต์/เครดิตบูโร กู้ซื้อบ้านได้ไหม ?” พร้อมทั้งวิธีแก้ไขและแนวทางการกู้ซื้อบ้าน รวมไปถึงรายละเอียดอื่น ๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับการติดแบล็คลิสต์หรือเครดิตบูโร
ทำความรู้จักกับคำว่า “แบล็คลิสต์” และ “เครดิตบูโร”
อันดับแรกก่อนที่จะไปถึงเรื่องการติดแบล็คลิสต์หรือเครดิตบูโร เราก็อยากจะให้คุณทำความเข้าใจและรู้จักกับคำว่าแบล็คลิสต์และเครดิตบูโรเสียก่อน โดยเราขออธิบายออกเป็นข้อ ๆ เพื่อให้ง่ายต่อความเข้าใจดังนี้ค่ะ
เครดิตบูโร
คือ ชื่อเรียกของ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (National Credit Bureau) ที่จะคอยทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลเครดิตลูกหนี้ของสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิก โดยที่สถาบันการเงินและเจ้าของข้อมูล สามารถเรียกดูรายงานข้อมูลได้ตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งในรายงานจะประกอบไปด้วยพฤติกรรมการชำระเงิน ทั้งประวัติการชำระเงินดีและล่าช้า เพื่อที่ทางธนาคารหรือทางสถาบันการเงินจะได้นำข้อมูลในส่วนนี้ไปประกอบการพิจารณาสำหรับการอนุมัติสินเชื่อในอนาคต ทั้งนี้เครดิตบูโรจัดเก็บข้อมูลเป็น 2 ส่วน ได้แก่
- ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า : อาทิ ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ วัน/เดือน/ปีเกิด สถานภาพการสมรส อาชีพ เลขบัตรประชาชน และในกรณีนิติบุคคลจะเป็นชื่อ ที่ตั้ง เลขทะเบียนนิติบุคคล เป็นต้น
- ข้อมูลสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติ และประวัติการชำระสินเชื่อ อาทิ ประวัติการกู้ซื้อบ้าน/กู้ซื้อรถ ผ่อนบัตรเครดิตอยู่กี่ใบ มีสินเชื่อทั้งหมดกี่บัญชี สถานะของแต่ละบัญชี และประวัติการผ่อนชำระ เป็นต้น
แบล็คลิสต์
คือ การที่บุคคลใดก็ตามมีประวัติในการชำระหนี้ไม่ตรงตามกำหนดหรือมีติดหนี้บัตรเครดิตคงค้างเกิน 90 วัน ซึ่งประวัติการชำระเงินทั้งดีและไม่ดีจะถูกบันทึกไปในเครดิตบูโร และเมื่อทางธนาคารหรือสถาบันการเงินเห็นข้อมูลในส่วนนี้ เช่น คุณคงค้างหนี้เกิน 90 วัน หรือมีประวัติการชำระหนี้ที่ไม่ตรงเวลา โอกาสที่จะได้รับการอนุมัติสินเชื่อก็จะลดลงหรือเท่ากับ 0 เลยก็ว่าได้ (แบล็คลิสต์จะไม่มีการจัดทำบัญชีรายชื่อลงในระบบเครดิตบูโรแต่อย่างใด เพียงแต่เป็นคำนิยามของผู้ที่มีประวัติการชำระหนี้ไม่ดีเท่านั้น)
เหตุผลที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินให้ความสำคัญกับเรื่องเครดิตบูโร
หากจะให้สรุปแบบง่าย ๆ เลยนะคะ ว่าเหตุผลที่ทางธนาคารหรือสถาบันการเงินให้ความสำคัญกับเรื่องเครดิตบูโร ก็เพราะว่า รายละเอียดในเครดิตบูโรจะช่วยทำให้ทางธนาคารหรือสถาบันการเงินได้รู้จักกับลูกค้ามากขึ้น เช่น ลูกค้าคนนี้มีประวัติการชำระหนี้เป็นอย่างไร ? จ่ายค่างวดหนี้ตรงเวลาหรือไม่ ? ตอนนี้มีหนี้สินอะไรคงค้างอยู่บ้าง ? ฯลฯ ซึ่งข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้จะถูกนำไปพิจารณาสำหรับการอนุมัติสินเชื่อที่ทางลูกค้าทำเรื่องขอกู้มา ดังนั้นหากคุณมีประวัติการชำระหนี้ที่ดี ทางธนาคารหรือสถาบันการเงินก็จะรู้สึกมั่นใจและนำไปสู่การอนุมัติสินเชื่อที่ง่ายมากยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ
ติดแบล็คลิสต์หรือเครดิตบูโรซื้อบ้านได้ไหม ?
หากจะให้ตอบแบบภาษาบ้าน ๆ ก็คือ “โอกาสที่ทางธนาคารจะอนุมัติสินเชื่อกู้ซื้อบ้านแทบจะเป็น 0 ค่ะ” เพราะทางธนาคารหรือสถาบันการเงินจะประเมินว่าคุณไม่มีความพร้อมในการชำระหนี้และนั่นอาจจะทำให้กลายเป็นหนี้เสียได้ในอนาคต ส่งผลให้ผู้ที่ติดแบล็คลิสต์หรือเครดิตบูโรส่วนใหญ่ไม่ได้รับการอนุมัตินั่นเอง
วิธีแก้สถานะเครดิตบูโรให้กลับมาเป็นปกติ
สำหรับใครที่เป็นกังวลว่าติดแบล็คลิตส์หรือติดเครดิตบูโรแล้วจะซื้อบ้านไม่ได้ ก็ไม่ต้องเป็นกังวลใจไปค่ะ เพราะคุณสามารถแก้สถานะเครดิตบูโรให้กลับมาขาวสะอาดได้อีกครั้ง ซึ่งเมื่อเครดิตบูโรกลับสู่สภาวะปกติแล้ว คุณก็จะสามารถยื่นเรื่องขอกู้สินเชื่อบ้านได้ตามปกติเลยค่ะ และวิธีแก้ไขให้สถานะเครดิตบูโรของคุณกลับมาเป็นปกติเลยก็คือ...
1. สรุปยอดหนี้ค้างชำระทั้งหมด
อันดับแรกให้คุณจดสรุปหนี้ที่คงค้างชำระทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นหนี้บัตรเครดิต หนี้รถยนต์ ฯลฯ จากนั้นสอบถามยอดกับทางธนาคารหรือสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ว่าสามารถผ่อนชำระขั้นต่ำได้เดือนละเท่าไหร่ ? (ถ้ามีเงินมากกว่ายอดชำระขั้นต่ำ ก็สามารถโป๊ะหนี้ได้เลยนะคะ) สามารถปรับโครงสร้างหนี้ที่คงค้างอยู่ได้แบบไหนบ้าง ? หรือจะโทรไปปรึกษากับทางเจ้าหน้าที่ของธนาคารก็ได้เช่นกันค่ะ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ยินดีที่จะช่วยคุณหาทางออกในการผ่อนชำระหนี้อยู่แล้ว โดยรายละเอียดในส่วนนี้จะช่วยทำให้ผู้ที่ติดแบล็คลิสต์หรือเครดิตบูโรสามารถวางแผนทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และรู้ว่าในแต่ละเดือนเรามีรายจ่ายที่จะต้องจ่ายเท่าไหร่และจะต้องจ่ายกี่เดือนถึงจะหมด
2. อะไรที่ไม่จำเป็นต้องตัดทิ้ง
หากคุณกลายเป็นคนติดแบล็คลิสต์หรือเครดิตบูโร คุณก็คงจะต้องเลิกติดแกรมซะแล้วหล่ะค่ะ! เพราะสิ่งที่คุณจะต้องทำในตอนนี้คือหาเงินมาชำระหนี้ที่ค้างไว้ให้หมดและให้ไวมากที่สุด ฉะนั้นอะไรที่ไม่จำเป็นก็ให้คุณตัดใจขายทิ้งซะ เช่น กระเป๋าแบรนด์เนม เครื่องประดับ หรือของฟุ่มเฟือยต่าง ๆ เพื่อนำเงินมาชำระหนี้ที่มีอยู่ และจะได้ไม่ต้องไปกระทบกับเงินที่ใช้อยู่ในชีวิตประจำวัน
3. ปรับเปลี่ยนนิสัยการใช้เงิน หยุดสร้างหนี้ใหม่
ต่อให้จะหาเงินมาใช้หนี้จนหัวหมุน แต่ถ้าคุณยังไม่ปรับเปลี่ยนนิสัยการใช้เงินหรือสร้างหนี้ใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เราก็คงจะต้องบอกเลยค่ะว่า...วงจรการเป็นหนี้(จนติดแบล็คลิสต์หรือเครดิตบูโร)ของคุณจะไม่มีวันจบสิ้นอย่างแน่นอนค่ะ ฉะนั้นก่อนที่จะจ่ายหรือใช้เงิน คุณจะต้องตั้งสติและพิจารณาให้ดีว่าสิ่ง ๆ นั้นจำเป็นมากน้อยขนาดไหน ?
4. เริ่มสถานะเครดิตบูโรใหม่ให้ดีขึ้น
เมื่อคุณชำระหนี้ที่มีอยู่หมดแล้ว และสถานะทางการเงินเริ่มมั่นคงมากยิ่งขึ้น สิ่งที่คุณควรจะต้องทำเลยก็คือ “การสร้างสถานะเครดิตบูโรใหม่(ให้ดีขึ้นกว่าเดิม)” โดยคุณอาจจะทำบัตรเครดิตขึ้นมาสักหนึ่งใบและนำไปซื้อของที่ต้องผ่อนชำระ จากนั้นในทุก ๆ เดือนให้คุณผ่อนชำระให้ตรงเวลาอย่างสม่ำเสมอ(ห้ามค้างชำระเหมือนในอดีตล่ะ) ซึ่งวิธีการนี้จะช่วยทำให้เครดิตทางการเงินของคุณดีขึ้น และอย่าลืมเก็บใบเสร็จการชำระเงินหรือเอกสารที่เกี่ยวข้องไว้ เพราะเมื่อคุณทำเรื่องขอกู้ซื้อบ้านทางเจ้าหน้าที่ของธนาคารอาจจะขอเอกสารเหล่านี้ในการนำไปพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ
5. รอเวลาให้ครบกำหนด
หลังจากที่คุณชำระหนี้และปิดบัญชีเรียบร้อยแล้ว ข้อมูลเครดิตของคุณจะยังถูกจัดเก็บอยู่ในเครดิตบูโรอีก 3 ปี นับจากวันที่ได้รับรายงานข้อมูลการปิดบัญชีจากธนาคารหรือสถาบันการเงิน และเมื่อครบกำหนด 3 ปีแล้ว บัญชีเครดิตดังกล่าวจะถูกลบออกไปจากฐานข้อมูลอัตโนมัติ จากนั้นคุณค่อยยื่นเรื่องขอกู้ซื้อบ้านใหม่อีกครั้งค่ะ
การกู้ร่วม ตัวเลือกที่น่าสนใจของผู้ที่ติดแบล็คลิสต์หรือเครดิตบูโร
ในกรณีที่คุณชำระหนี้หมดแล้วแต่ไม่อยากรอเวลาถึง 3 ปี การทำเรื่องกู้ร่วมกับคนในครอบครัวที่มีประวัติทางการเงินที่ดี ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ และจะทำให้ผู้ที่ติดแบล็คลิสต์หรือเครดิตบูโรมีโอกาสได้รับการอนุมัติเมื่อทำเรื่องขอกู้สินเชื่อซื้อบ้าน
รายละเอียดทั้งหมดที่เราได้กล่าวไปข้างต้น คงจะเป็นประโยชน์ให้แก่ผู้ที่ติดแบล็คลิสต์หรือเครดิตบูโรและต้องการที่จะทำเรื่องขอกู้ซื้อบ้านได้ไม่มากก็น้อย ทั้งนี้ทางออกที่ดีที่สุดของปัญหาการติดแบล็คลิสต์หรือเครดิตบูโรก็คงจะหนีไม่พ้นการแก้ไขสถานะเครดิตบูโรให้กลับมาเป็นปกติ ซึ่งก็แน่นอนค่ะว่ามันต้องใช้ทั้งเวลาและความมีระเบียบวินัยทางการเงิน ดังนั้นหากเลือกได้ก็อย่าค้างชำระหนี้จะดีที่สุดค่ะ หมั่นชำระค่างวดให้ตรงเวลา พยายามอย่าจ่ายขั้นต่ำ วางแผนการใช้เงินอย่างรอบคอบ เพื่อที่ว่าประวัติทางการเงินของคุณจะได้ขาวสะอาดและนำไปสู่การขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านที่ง่ายมากยิ่งขึ้น และไว้โอกาสหน้าเราจะนำข้อมูลดี ๆ อะไรมาฝากอีก คุณก็สามารถติดตามได้ที่ Propertyhub Blog : บทความที่รวมทุกเรื่องราวเกี่ยวกับอสังหาฯ