อีกหนึ่งปัญหาที่เจ้าของบ้านทุกคนไม่อยากจะเจอเลยก็คือ “ปัญหาบ้านทรุดตัว” เพราะปัญหาดังกล่าวถือได้ว่าเป็นปัญหาที่ต้องรีบจัดการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นต่อตัวบ้าน ทรัพย์สินและผู้อยู่อาศัยทุก ๆ คน ซึ่งปัญหาบ้านทรุดตัวไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับบ้านเก่าเท่านั้น เพราะบ้านที่พึ่งปลูกใหม่ก็สามารถเกิดปัญหานี้ได้เช่นเดียวกัน โดยสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาบ้านทรุดตัวนั้นก็มีอยู่หลายสาเหตุ บางสาเหตุก็สามารถแก้ไขได้แบบง่าย ๆ แต่บางสาเหตุก็จำเป็นที่จะต้องใช้วิธีการซ่อมแซมที่ยุ่งยากและใช้ผู้เชี่ยวชาญมาพิจารณาวางแผนการแก้ไขปัญหาอย่างรอบคอบ และก็แน่นอนว่าค่าใช้จ่ายก็จะต้องสูงตามไปด้วย ทั้งนี้สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้บ้านเกิดการทรุดตัว คือ...
ชั้นดินมีการเคลื่อนตัว
สำหรับในกรณีที่ชั้นดินมีการเคลื่อนตัวจนเป็นเหตุให้บ้านทรุดนั้น...เกิดจากการขุดเอาดินบริเวณโดยรอบพื้นที่ตัวบ้านออกไปใช้เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ชั้นดินบริเวณดังกล่าวเกิดการเคลื่อนตัวและเป็นสาเหตุที่ทำให้บ้านทรุดนั่นเอง
น้ำหนักบ้านที่มากเกินไป
โดยปกติแล้วโครงสร้างของตัวบ้านจะถูกออกแบบให้รองรับน้ำหนักได้ประมาณหนึ่ง ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการอยู่อาศัยตามปกติ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่มีการต่อเติมบ้าน อาทิ ทำหลังคาโรงจอดรถ ต่อเติมชายคาบ้าน ฯลฯ นั่นก็อาจจะทำให้บ้านเกิดการทรุดตัวเอาได้ง่าย ๆ เนื่องจากบ้านมีน้ำหนักที่มากเกินไปนั่นเอง ดังนั้นก่อนทำการต่อเติมบ้าน(ที่เชื่อมต่อกับโครงสร้างของตัวบ้าน) คุณจำเป็นที่จะต้องปรึกษาวิศวกรหรือผู้เชี่ยวชาญก่อนทุกครั้ง ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของตัวบ้านและผู้อยู่อาศัยทุก ๆ คนในบ้าน
สภาพพื้นดิน
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าพื้นดินนั้นมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละพื้นที่ ทั้งในเรื่องของความหนาแน่น ความแข็ง ความอ่อนนุ่ม การยุบตัวของดิน ฯลฯ ดังนั้นสภาพของพื้นดินจึงกลายเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้บ้านเกิดการทรุดตัวเอาได้ โดยเฉพาะบ้านหลังไหนที่ปลูกบนดินที่มีความอ่อนนุ่มและทรุดตัวง่าย(เช่น พื้นที่บริเวณริมแม่น้ำหรือพื้นที่ลุ่มน้ำ) ก็จะทำให้บ้านมีโอกาสทรุดตัวได้มากกว่า
ตำแหน่งเสาเข็มไม่แม่นยำ
อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้บ้านทรุดตัวเลยก็คือ การวางตำแหน่งเสาเข็มไม่แม่นยำ ส่งผลให้ฐานรากไม่มีประสิทธิภาพในการรับน้ำหนักของตัวบ้าน จนเป็นเหตุให้บ้านทรุดนั่นเอง
การออกแบบโครงสร้างบ้านผิดพลาด
สาเหตุที่ทำให้บ้านทรุดตัวอีกหนึ่งข้อก็คือ “การออกแบบโครงสร้างบ้านผิดพลาด” เนื่องจากผู้ออกแบบหรือทีมวิศวกร ขาดความรู้ความชำนาญในเรื่องการออกแบบโครงสร้าง ส่งผลให้ระหว่างการก่อสร้างบ้านมีการใช้จำนวนเสาเข็มที่น้อยเกินไป หรือใช้ขนาดเสาเข็มไม่เหมาะสมกับน้ำหนักของตัวบ้าน ฯลฯ จนนำไปสู่การทรุดตัวของบ้านในที่สุด
เช็คสัญญาณเตือนว่าบ้านของคุณกำลังจะทรุด!
ในตัวบ้านมีรอยร้าวปรากฏให้เห็น : โดยเฉพาะรอยร้าวขนาดใหญ่บนผนังหรือเสา หรือรอยร้าวในลักษณะบ้านทรุดไม่เท่ากันจนผนังแยกตัวออกจากกันในแนวทแยงมุม
โครงสร้างคานกับผนังแยกออกจากกันจนเห็นได้ชัด
ผนังบ้านหรือพื้นบ้านเอียงจนเห็นได้ชัด
พื้นดินบริเวณรอบ ๆ ตัวบ้านยุบเป็นโพรง : เมื่อไหร่ที่พื้นดินบริเวณรอบ ๆ ตัวบ้านยุบตัวจนเห็นโพรง นั่นก็เป็นสัญญาณที่เตือนว่าพื้นดินกำลังทรุดตัว ทั้งนี้การทรุดตัวจะกระทบกับตัวบ้านมากแค่ไหน ก็จะขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของเสาเข็มเป็นหลัก แต่สิ่งสำคัญคือให้คุณระวังสัตว์ร้ายชนิดต่าง ๆ เช่น งู ตัวเงินตัวทอง ตะขาบ หนู ฯลฯ จะใช้โพรงใต้บ้านของคุณเป็นที่อยู่อาศัย หากคุณปล่อยทิ้งไว้ไม่รีบแก้ไขปัญหา
ท่อหรืองานระบบที่ใต้ถุนบ้านแยกขาดออกจากกัน
พื้นรอบ ๆ บ้าน/ห้องที่ต่อเติม/พื้น มีการทรุดตัวแยกออกจากตัวบ้าน
เมื่อมีปัญหาบ้านทรุดตัว ควรทำอย่างไรดี ?
หากตอนนี้คุณกำลังเจอกับปัญหาบ้านทรุดตัวหรือมั่นใจแล้วว่าบ้านกำลังจะทรุดตัวในไม่ช้า สิ่งที่คุณควรจะต้องทำอย่างเร่งด่วนเลยก็คือ...
ติดต่อเจ้าของโครงการหมู่บ้าน
ในกรณีที่คุณซื้อบ้านใหม่ภายในโครงการหมู่บ้าน ให้คุณติดต่อแจ้งเรื่องว่ามีปัญหาบ้านทรุดตัวกับทางโครงการหมู่บ้านโดยตรงหรืออาจจะติดต่อผ่านทางนิติบุคคลก็ได้เช่นกัน เพื่อที่เขาจะได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งโดยปกติแล้วทางโครงการหมู่บ้านจะมีประกันโครงการบ้านให้กับผู้ซื้ออย่างน้อย 5 ปี (ผู้ซื้อจะต้องไม่ต่อเติมบ้านหรือทำผิดข้อตกลงในสัญญา) แต่ในกรณีที่ทางโครงการหมู่บ้านเพิกเฉย ผู้ซื้อสามารถแจ้งสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) หรือฟ้องศาลแพ่งเพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย หรือฟ้องศาลอาญาเพื่อเอาผิดฐานฉ้อโกงได้
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางหรือปรึกษาวิศวกร
ปัญหาบ้านทรุดเป็นปัญหาที่ไม่ใช่ใครจะมาแก้ก็ได้ เพราะปัญหาดังกล่าวคือปัญหาใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างของตัวบ้าน ซึ่งถ้าไม่มีความรู้เฉพาะทาง มันก็อาจจะทำให้บ้านทั้งหลังของคุณพังเอาได้ง่าย ๆ ดังนั้นให้คุณติดต่อผู้เชี่ยวชาญหรือปรึกษาวิศวกรที่มีความรู้ในเรื่องการก่อสร้าง มาวิเคราะห์สาเหตุและหาทางแก้ไขปัญหาที่ทำให้บ้านทรุดได้อย่างตรงจุด
การดีดบ้าน
สำหรับบ้านที่พื้นดินทรุดตัวมากหรือฐานรากของบ้านเกิดความเสียหายอย่างหนัก การเลือกใช้วิธีดีดบ้านก็คงจะเป็นวิธีที่จะแก้ไขปัญหาบ้านทรุดได้ดีที่สุด เพราะไม่ต้องทุบบ้านทิ้ง ซึ่งวิธีการดีดบ้านทำได้โดยการตัดบ้านออกจากฐานรากเดิมแล้วยกขึ้นจนลอยตัว เพื่อทำฐานรากใหม่ให้แข็งแรงก่อนที่จะประกบตัวบ้านให้ติดกับฐานรากอีกครั้ง แต่ทั้งนี้การดีดบ้านมีราคาที่สูงมาก และจำเป็นที่จะต้องดำเนินการโดยบริษัทหรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเท่านั้น
ฉีดสารโพลียูรีเทน
การฉีดสารโพลียูรีเทนจะปรับยกระดับพื้นดินที่ทรุด โดยที่ไม่ต้องทุบพื้น ซึ่งการฉีดสารโพลียูรีเทนจะเสริมความแข็งแรงให้กับชั้นดินและเพิ่มความสามารถในการรับน้ำหนักของดินภายใต้โครงสร้างเดิม(สามารถรองรับน้ำหนักได้มากถึง 20 ตันต่อตารางเมตร และยังมีความสามารถในการยกน้ำหนักได้มากถึง 50 ตันต่อตารางเมตร) ทั้งนี้สารโพลียูรีเทนจะแทรกตัวไปตามช่องว่างของชั้นดินรวมตัวกับ ดิน หิน ทราย ซึ่งเมื่อสารขยายตัวอย่างต่อเนื่องก็จะยกพื้นที่ทรุดขึ้น ส่งผลให้พื้นที่ที่ทรุดตัวสามารถยกตัวขึ้นได้เท่ากับของเดิมหรือตามความต้องการนั่นเอง
ปัญหาบ้านทรุดตัวถือได้ว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่เจ้าของบ้านทุกคนไม่ควรที่จะมองข้าม เพราะมันสามารถทำให้บ้านอันแสนรักของคุณพังทั้งหลังได้เลยทีเดียว ดังนั้นหากพบเจอกับสัญญาณเตือนว่าบ้านกำลังจะทรุดตัว คุณจำเป็นที่จะต้องวางแผนในการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว เพื่อป้องกันความเสียหายร้ายแรงที่อาจจะเกิดขึ้น และไว้โอกาสหน้าทีมงาน Propertyhub จะนำข้อมูลดี ๆ อะไรมาฝากอีก คุณก็สามารถติดตามได้ที่ Propertyhub Blog : บทความที่รวมทุกเรื่องราวของบ้าน คอนโดและอสังหาฯ