ปฏิเสธไม่ได้ว่า “คอนโด” คืออีกทางเลือกที่อยู่อาศัยของคนยุคใหม่ ปัจจัยหลักมาจากการเน้นในเรื่องความรวดเร็ว ความสะดวกสบาย ยิ่งใครต้องทำงานหรือเรียนหนังสือในเมือง หากมีเวลาพักผ่อนเยอะ ไม่ต้องฝ่ารถติดหลายชั่วโมงนับเป็นสวรรค์ของชีวิตเลยก็ว่าได้ จึงทำให้นักลงทุนหลายคนสนใจอยากปล่อยเช่าคอนโดให้กับกลุ่มลูกค้าที่ไม่ได้ต้องการซื้อขาด เพียงแค่อยู่อาศัยชั่วคราว และถ้าหากคุณคือหนึ่งในคนที่สนใจสร้างรายได้จากวิธีนี้ มีเรื่องไหนต้องรู้บ้าง ห้ามพลาด
เรื่องต้องรู้ก่อนให้เช่าคอนโด
1. มองหาช่องทางปล่อยเช่าที่ตอบโจทย์
ปัจจุบันมีช่องทางสุดหลากหลายที่จะช่วยให้การปล่อยเช่าคอนโดของทุกคนเป็นเรื่องง่ายขึ้น ทั้งการประกาศผ่านช่องทางออนไลน์ส่วนตัว อาทิ Facebook, Instagram, Twitter ประกาศผ่านหน้าเว็บไซต์ให้ฝากเช่าฟรี ใช้บริการบรรดาเว็บคนกลางที่ช่วยประกาศต่อไปถึงลูกค้าเป้าหมาย รวมถึงการแจ้งกับนิติบุคคลให้ช่วยเหลือในการหาคนมาเช่าอยู่อาศัยต่อ ตรงนี้ขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละคนเลือกในแบบที่ตนเองถนัดหรือจะใช้หลายวิธีก็ไม่มีปัญหา
2. ถ่ายรูปสิ่งของต่าง ๆ ในห้องรวมถึงจดรายการเหล่านั้นด้วย
กรณีที่เป็นคอนโดแบบให้เช่า ส่วนใหญ่แล้วผู้ให้เช่ามักมีเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าพื้นฐานให้กับผู้เช่าอยู่แล้ว แต่เพื่อป้องกันความเสียหายแล้วไม่มีคนรับผิดชอบ แนะนำให้คุณทำการถ่ายรูป และจดรายการสิ่งของทุกชิ้นที่อยู่ในห้องเอาไว้เลยว่ามีอะไรบ้าง จากนั้นหากมีผู้สนใจเช่าต่อก็ต้องอธิบายกันตามจริงว่าสิ่งเหล่านี้ไม่มีร่องรอยใด ๆ รุนแรง เพื่อลดโอกาสเสี่ยงข้าวของเสียหาย
3. ทำสัญญาเช่าให้ชัดเจน
เรื่องต่อมานับเป็นหัวใจหลักสำหรับคนที่ต้องการสร้างรายได้ผ่านช่องทางนี้เลยคงไม่ผิดนัก เพราะการเซ็นสัญญาคือเอกสารที่สามารถยืนยันรายละเอียดได้ทุกอย่างว่าตกลงอะไรกันไว้บ้าง สามารถหาแบบสัญญาได้จากเว็บไซต์ทั่วไป อย่าลืมใส่รายละเอียดที่ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงร่วมกันให้ครบ ขอสำเนาเอกสารยืนยันตัวตน และถ้าหากเช่าเกิน 3 ปี ต้องมีการจดทะเบียนเช่ากับกรมที่ดินด้วย เพื่อกรณีเกิดปัญหาการเช่าหลังผ่านปีที่ 3 ไปแล้วจะได้ดำเนินการฟ้องร้องอย่างถูกต้อง
4. ระบุเรื่องการรับผิดชอบกรณีสิ่งของเสียหาย รวมถึงค่าปรับต่าง ๆ
วิธีนี้จะช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาการชดใช้ในกรณีสิ่งของบางประเภทในคอนโดของคุณพังเสียหาย เช่น ผ้าม่านขาด, เตาไมโครเวฟพัง ฯลฯ นอกจากเขียนระบุเอาไว้ในสัญญาแล้วจะต้องพูดปากเปล่าเพื่อให้ผู้เช่ารับรู้ระดับหนึ่งด้วยว่ากรณีความเสียหายที่เกิดจากความประมาทเลินเล่อ ไม่ใช่เกิดจากอายุใช้งานของสิ่งต่าง ๆ ภายในห้อง ผู้เช่าต้องรับผิดชอบ แต่ถ้าสิ่งไหนเป็นเหตุสุดวิสัย หรือมีร่องรอยเดิมอยู่แล้ว แนะนำให้ผู้เช่าถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐานด้วย ซึ่งข้อนี้รวมถึงค่าปรับต่าง ๆ เช่น การชำระเงินล่าช้า หรือการทำสิ่งของบางประเภทเสียหายและหามาชดใช้คืนไม่ได้ เป็นต้น
5. ระบุเรื่องค่าใช้จ่ายที่แต่ละฝ่ายต้องชำระ
อีกเรื่องที่มักเป็นปัญหาสุด ๆ ของการปล่อยเช่าคอนโดระหว่างผู้ให้เช่ากับผู้เช่านั่นคือ ไม่รู้ว่าใครจะต้องเสียเงินตรงไหนบ้าง เช่น ค่าส่วนกลาง, ค่าน้ำ ค่าไฟ, ค่าเคเบิ้ลทีวี, ค่าอินเทอร์เน็ต ฯลฯ ดังนั้นเพื่อให้เกิดความชัดเจน แนะนำว่าระบุในสัญญาถึงสิ่งที่ผู้ให้เช่าและผู้เช่าต้องจ่ายว่ามีอะไร ตัดปัญหาความยุ่งยาก และข้อผิดพลาดในการลืมชำระเพราะคิดว่าเป็นหน้าที่ของอีกฝ่าย ไม่ต้องปวดหัวกับเรื่องยุ่ง ๆ ภายหลัง
6. ต้องมีเงินประกันค่าเช่าด้วย
ข้อนี้ขอเน้นย้ำสำหรับคนให้เช่าคอนโดหรือสินทรัพย์ใดๆ ก็ตาม ควรมีการระบุในเรื่องเงินประกันค่าเช่า หรือจะเรียก เงินประกันสัญญาก็ได้ หลักการง่าย ๆ คือ ให้จ่ายเป็นมัดจำล่วงหน้าเอาไว้ก่อนอย่างน้อย 1-2 เดือน เช่น ค่าเช่าคอนโดเดือนละ 10,000 บาท เมื่อเข้าอยู่เดือนแรกก็ระบุให้ผู้เช่าจ่ายเงินประกันค่าเช่า 2 เดือน เท่ากับว่าผู้เช่าต้องจ่ายเงินในเดือนแรกที่ 30,000 บาท ทั้งนี้ในกรณีครบกำหนดสัญญาเช่า แล้วไม่มีความเสียหายใด ๆ ผู้ให้เช่าจะต้องคืนเงินดังกล่าว ซึ่งเลือกได้หลายรูปแบบ เช่น การให้อยู่ฟรีใน 2 เดือนสุดท้าย, การจ่ายเงินเป็นเงินก้อน ฯลฯ
7. การต่ออายุสัญญาเช่า
ปกติระยะเวลาในการเช่าจะขึ้นอยู่กับการตกลงทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งต้องระบุเอาไว้ในสัญญาให้ชัดเจน รวมถึงระบุวิธีต่อสัญญาด้วย แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ
ต่อแบบอัตโนมัติหากไม่มีฝ่ายใดทักท้วงเมื่อหมดสัญญาหรือก่อนหมดสัญญา 1 เดือน ซึ่งค่าใช้จ่ายและระยะเวลาการเช่ารอบใหม่สามารถระบุลงไปได้เลยตามสมควรเช่น ราคาเดิม ระยะเวลาเดิม
ไม่ต่อสัญญาเมื่อหมดสัญญาแล้ว หากอยู่อาศัยต่อต้องทำสัญญาฉบับใหม่
8. เรื่องของภาษี
เรื่องสุดท้ายที่อยากแนะนำสำหรับคนคิดปล่อยเช่าคอนโด นั่นคือ การเสียภาษีซึ่งหลัก ๆ แล้วจะแบ่งออกเป็น 3 หมวด ขึ้นอยู่กับผู้เช่าและผู้ให้เช่า ดังนี้
ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของการให้เช่าคอนโดสำหรับผู้ให้เช่าที่สนใจอยากสร้างรายได้เพิ่มเติมจากคอนโดของตนเอง
แต่ละสิ่งมีความสำคัญและห้ามมองข้ามอย่างเด็ดขาด หากไม่อยากเกิดข้อผิดพลาดภายหลัง
หากท่านใดที่ชอบบทความดีๆ แบบนี้สามารถติดตามเลือกอ่านได้ใน Propertyhub Blog