หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่ต้องการจะปล่อยเช่าคอนโดหรือปล่อยเช่าอสังหาฯ ทางทีมงาน Propertyhub ก็เชื่อได้เลยว่าข้อมูลในบทความนี้คงจะกลายเป็นประโยชน์ให้กับคุณอย่างแน่นอน! เพราะว่าเราได้นำ 5 ข้อที่คุณไม่ควรทำ! หากคิดที่จะปล่อยเช่าคอนโด มาฝาก โดยรายละเอียดของแต่ละข้อนั้นล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่ผู้ให้เช่าจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะไม่เช่นนั้นมันก็อาจจะทำให้คุณกลายเป็นผู้ที่มีความผิดทางกฎหมายทั้งทางแพ่งและอาญาเอาได้ ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราไปพบกับสิ่งที่ผู้ให้เช่าไม่ควรจะทำพร้อมๆ กันเลย
1.การบุกรุกเข้าไปในคอนโดที่ปล่อยเช่าไปแล้ว
แม้ว่าคุณจะเป็นเจ้าของคอนโดหรืออสังหาฯ แต่! เมื่อไหร่ที่คุณได้ตกลงทำสัญญาเช่าให้กับผู้เช่าเรียบร้อยแล้ว คุณก็ไม่มีสิทธิที่จะเข้าไปในพื้นที่หากไม่ได้รับอนุญาตจากผู้เช่า เพราะทางกฎหมายจะถือว่าผู้เช่ามีสิทธิในส่วนนี้เหนือกว่าคุณ ดังนั้นหากคุณดันทุลังที่จะเข้าไปในพื้นที่ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร มันก็จะทำให้คุณถูกผู้เช่าแจ้งดำเนินคดีทั้งทางแพ่ง(ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล) และทางอาญา(ฐานบุกรุก) เอาได้ แต่! ถ้าหากตัวคุณเองมีการบอกเลิกสัญญาโดยชอบด้วยกฎหมาย และคู่สัญญาได้กำหนดสิทธิไว้ว่า...ผู้ให้เช่ามีสิทธิที่จะเข้าไปในคอนโดหรืออสังหาฯได้ ในกรณีเช่นนี้คุณก็สามารถเข้าไปในคอนโดหรืออสังหาฯ เพื่อดำเนินการที่จำเป็นต่างๆ ได้ตามปกติ แต่ทั้งนี้ต้องระวังไม่ให้ทรัพย์สินของผู้เช่าเกิดความเสียหายเป็นอันขาด
2.ไม่ควรเคลื่อนย้ายทรัพย์สินของผู้เช่าออกจากคอนโดโดยพลการ
หากคุณคิดที่จะไปขนย้ายทรัพย์สินของผู้เช่าที่ไม่ยอมจ่ายค่าเช่าแล้วล่ะก็ เราขอให้คุณหยุดความคิดนั้นก่อน! เพราะการกระทำดังกล่าวอาจจะทำให้คุณมีความผิดในทางกฎหมายเอาได้ แต่! ถ้าหากตัวคุณเองได้ทำการบอกเลิกสัญญาโดยชอบด้วยกฎหมายเรียบร้อย และภายในสัญญาเช่าได้กำหนดสิทธิไว้ว่า...ผู้ให้เช่ามีสิทธิที่จะเคลื่อนย้ายทรัพย์สินของผู้เช่าออกจากคอนโดหรืออสังหาฯได้ คุณก็สามารถเข้าไปเคลื่อนย้ายทรัพย์สินของผู้เช่าได้เลยทันที ทั้งนี้การมีพยาน เช่น นิติบุคคลของโครงการคอนโดนั้นๆ เข้าไปตรวจสอบด้วย ก็จะเป็นอีกหนึ่งพยานสำคัญว่าคุณทำการเคลื่อนย้ายทรัพย์สินของเช่า โดยที่ไม่ได้มีการทำลายหรือทำให้เสียหายแต่อย่างใด
3.ไม่ควรตัดน้ำ/ตัดไฟ/ตัดอินเตอร์เน็ตภายในคอนโดหรืออสังหาฯ ที่ปล่อยเช่า
สำหรับการตัดน้ำ ตัดไฟ และตัดอินเตอร์เน็ตในคอนโดหรืออสังหาฯ นั้น ถือได้ว่าเป็นการรบกวนสิทธิของผู้เช่า ซึ่งแน่นอนว่ามันอาจจะทำให้ผู้เช่าหันกลับมาแจ้งความเอาผิดกับคุณได้(แม้ว่าเขาจะค้างค่าเช่าเราอยู่ก็ตาม) แต่! ถ้าหากคุณได้ทำการบอกเลิกสัญญาเช่าโดยชอบด้วยกฎหมายเรียบร้อยแล้ว และภายในสัญญาเช่าได้กำหนดสิทธิไว้ว่า...ผู้ให้เช่ามีสิทธิที่จะตัดน้ำ ตัดไฟ ตัดอินเตอร์เน็ต ฯลฯ ได้ทันทีหากผู้เช่าได้ผิดสัญญา ในกรณีแบบนี้คุณก็สามารถทำการกระทำดังกล่าวได้เลย แต่ทางที่ดีควรจะบอกให้ผู้เช่ารับรู้ล่วงหน้าก่อนด้วย
4.ห้ามขับไล่ผู้เช่าออกจากคอนโดหรืออสังหาฯ ด้วยตัวเองอย่างเด็ดขาด!
เราขอบอกเลยว่าการขับไล่ผู้เช่าออกจากคอนโดหรืออสังหาฯ ด้วยตัวคุณเองนั้น ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่คุณห้ามทำอย่างเด็ดขาด! เพราะนั่นอาจจะทำให้ผู้เช่า(หัวหมอ) แจ้งความเอาผิดทางอาญากับคุณได้ อาทิเช่น ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ ความผิดฐานบุกรุก ดังนั้นหากผู้เช่าทำผิดสัญญาเช่าจริงๆ สิ่งที่คุณควรจะทำเลยก็คือ...การฟ้องร้องดำเนินคดีทางศาล(อาทิเช่น ฟ้องร้องเพื่อขับไล่ผู้เช่า, ฟ้องร้องเรียกค่าเช่าที่ผู้เช่าค้างชำระ, ฟ้องร้องเรียกค่าปรับต่างๆ ต่อผู้เช่า ฯลฯ)
5.ห้ามทำร้ายร่างกายและทรัพย์สินของผู้เช่าเด็ดขาด!
แม้ว่าคุณจะหัวร้อนกับผู้เช่า(ที่ไม่ยอมจ่ายค่าเช่า)มากขนาดไหน คุณก็ไม่มีสิทธิที่จะไปทำร้ายร่างกายหรือทรัพย์สินของผู้เช่า! เพราะนั่นจะทำให้คุณ “มีความผิดทางกฎหมาย” แบบเต็มๆ ซึ่งก็รวมไปถึงการข่มขู่ผู้เช่าในช่องทางต่างๆ ด้วยเช่นกัน
รายละเอียดทั้ง 5 ข้อ ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่เจ้าของคอนโดไม่ควรกระทำกับผู้เช่า ไม่ว่าจะด้วยกรณีใดๆ ก็ตาม เพราะการกระทำดังกล่าวมันอาจจะทำให้คุณมีความผิดทั้งทางแพ่งและอาญาเอาได้ง่ายๆ ดังนั้นภายในสัญญาเช่าของคุณจึงจำเป็นที่จะต้องระบุสิทธิของผู้ให้เช่าไว้อย่างชัดเจน ว่าเมื่อไหร่ที่สามารถเข้าไปในพื้นที่ได้ ? เมื่อไหร่ที่สามารถเคลื่อนย้ายทรัพย์สินของผู้เช่าได้ ? เมื่อไหร่ที่สามารถตัดน้ำ/ตัดไฟและอินเตอร์เน็ตของผู้เช่าได้ ? ทั้งนี้ก็เพื่อให้รายละเอียดภายในสัญญาเช่าเป็นสิ่งที่ช่วยยืนยันว่าทางผู้เช่าได้รับรู้และยินยอมตั้งแต่แรก และผู้เช่า(หัวหมอ)ก็จะไม่สามารถแจ้งความเอาผิดกับทางผู้ให้เช่าอย่างคุณได้นั่นเอง!
และหากคุณต้องปล่อยเช่า/ขายคอนโด คุณก็สามารถมาลงประกาศได้ฟรีที่ Propertyhub เว็บไซต์ที่ผู้คนยุคใหม่ ไว้วางใจในการค้นหาคอนโด!