เรื่องของ “เพื่อนบ้าน” เป็นสิ่งที่ผู้คนต่างจะต้องพบเจออย่างแน่นอน 100% ไม่เว้นแม้แต่การพักอาศัยอยู่ภายในคอนโด ที่เรามักจะเรียกว่า “เพื่อนข้างห้อง” ซึ่งหากคุณได้เพื่อนข้างห้องหรือเพื่อนบ้านที่เป็นมิตร มันก็จะถือว่าเป็นเรื่องราวดีๆ ในชีวิตเลยทีเดียว เนื่องจากมีผู้คนจำนวนไม่น้อยประสบกับปัญหาเพื่อนบ้าน จนถึงขั้นย้ายที่อยู่อาศัยกันเลยก็มี! แต่ก่อนที่จะไปตั้งข้อครหากับเพื่อนบ้านนั้น ตัวเราเองก็ต้องปฏิบัติตนเป็นเพื่อนบ้านหรือเพื่อนข้างห้องที่ดีเสียก่อน ดังนั้นในวันนี้ Propertyhub จึงได้รวบรวมเคล็ดลับการอยู่ร่วมกับเพื่อนบ้านให้ Happy กันทั้ง 2 ฝ่ายมาฝาก ซึ่งเคล็ดลับที่ว่านี้ บอกได้เลยว่าจะช่วยทำให้ทั้งคุณและเพื่อนบ้าน มีความสุขในการอยู่อาศัยร่วมกันเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน!
1.ทำตัวเป็นมิตร
การทำตัวเป็นมิตรในที่นี้ ไม่ต้องถึงขั้นที่จะไปเคาะห้องเพื่อแนะนำตัวหรืออะไรขนาดนั้น เพียงแต่เมื่อพบหน้าหรือเดินสวนกัน คุณอาจจะทักทายหรือส่งยิ้มให้กันบ้าง หรือในกรณีที่คุณได้รับความช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ เช่นการกดชั้นลิฟต์ ช่วยเก็บของที่ตก คุณก็จะต้องกล่าวคำขอบคุณ เพื่อให้ผู้สนทนารู้สึกดีกับคุณมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
2.คิดบวกเข้าไว้
หากเพื่อนบ้านหรือเพื่อนข้างห้องของคุณ มักทำเสียงดังหรือทำบางสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อคุณ คุณก็อย่าพึ่งตัดสินว่าเขาตั้งใจที่จะก่อกวน เนื่องจากผู้คนทั่วไปมักไม่ได้มีเจตนาที่จะสร้างปัญหาให้ผู้อื่น เพียงแต่เขาอาจจะคิดไม่ถึงว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่นั้นมันสร้างผลกระทบให้กับเพื่อนข้างห้องอย่างเรา ดังนั้นอย่าพึ่งคิดอคติให้คุณคิดบวกเข้าไว้ และค่อยปรึกษาหรือบอกกล่าวเขาในภายหลัง
3.ความเกรงใจคือสิ่งที่คุณต้องมี!
แม้ว่าคุณจะอาศัยอยู่ในภายในห้องที่เป็นพื้นที่ส่วนบุคคล แต่! อย่าลืมว่ากลิ่น เสียง และสิ่งต่างๆ สามารถส่งผลกระทบต่อเพื่อนบ้านหรือเพื่อนข้างห้องได้! ไม่ว่าจะเป็น กลิ่นอาหาร เสียงเพลง หรือเศษสิ่งสกปรกที่อาจจะปลิวไปตกในบริเวณห้องของผู้อื่น ดังนั้นหมั่นดูแลความเรียบร้อยภายในห้องของตัวเองให้ดี เพื่อที่คุณจะได้ไม่มีปัญหากับเพื่อนข้างห้องในภายหลัง ยกตัวอย่าง เช่น
หากคุณจะมีปาร์ตี้ที่ต้องเปิดเพลงดัง หรือต้องทำอาหารรับรองแขก คุณก็อาจจะแจ้งเพื่อนข้างห้องให้รู้ตัวก่อนล่วงหน้า เพื่อแสดงให้เขารู้ว่าเราไม่ได้ตั้งใจที่จะก่อกวนหรือสร้างผลกระทบให้กับเขา
งดการตอกตะปูหรือเจาะกำแพงในช่วงเวลากลางคืน เนื่องจากช่วงเวลากลางคืนผู้คนส่วนใหญ่มักจะกำลงพักผ่อนอยู่นั่นเอง
หากห้องของคุณเลี้ยงสัตว์ ก็อาจจะเข้าไปสอบถามว่ามีกลิ่นอันไม่พึ่งประสงค์รบกวนหรือไม่ เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสัตว์เลี้ยงของเรา
งดการพูดจาที่เสียงดังในบริเวณทางเดินภายในคอนโด เป็นต้น
4.บอกกล่าวอย่างสุภาพ
หากเพื่อนบ้านหรือเพื่อนข้างห้องของคุณทำบางสิ่งบางอย่างที่สร้างผลกระทบให้กับคุณจนมากเกินไป การบอกกล่าวกับเขาอย่างตรงไปตรงมาน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด โดยคุณอาจจะบอกกล่าวกับเขาอย่างสุภาพด้วยประโยคที่ดูเป็นมิตร เช่น “พอดีไม่ค่อยสบาย รบกวนเบาเพลงลงหน่อยได้ไหมครับ” แทนการพูดคำว่า “ช่วยเปิดเพลงเบาๆ หน่อยได้ไหม” เป็นต้น หรือเรียกง่ายๆ ว่า เป็นการใช้ I Statement คือการสื่อสารเชิงบวกแสดงความรู้สึกและความต้องการของเรา ว่าสิ่งที่อีกฝ่ายกระทำ ส่งผลให้เรารู้สึกอย่างไร อีกทั้ง I Statement จะช่วยทำให้ผู้ฟังไม่รู้สึกว่ากำลังถูกคุกคามหรือถูกกล่าวโทษอีกด้วย
5.มีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่สร้างความประทับใจหรือสร้างสายสัมพันธ์อันดีระหว่างเรากับเพื่อนบ้านหรือเพื่อนข้างห้องเลยก็คือ “การมีน้ำใจให้แก่กัน” เช่น คุณอาจจะซื้อของฝากจากต่างจังหวัดมาฝากเขา หรือแบ่งปันอาหารที่ซื้อมาหรือลงมือทำให้กับเพื่อนข้างห้องชิม รวมไปถึงช่วยเหลือสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่เกินความสามารถของเรา เช่น รถน้ำต้นไม้บริเวณที่ระเบียง เมื่อเพื่อนข้างห้องของเราไม่อยู่ห้องเป็นเวลานาน เป็นต้น
6.ขอความช่วยเหลือจากฝ่ายนิติฯ
ในกรณีที่คุณบอกก็แล้ว พยายามผูกมิตรก็แล้ว แต่เพื่อนบ้านหรือเพื่อนข้างห้องของคุณยังกระทำสิ่งที่เป็นผลกระทบต่อคุณอย่างต่อเนื่องและไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ทางออกของปัญหานี้ คือให้คุณแจ้งความเดือดร้อนที่ได้รับกับทางนิติบุคคลในทันที ไม่ต้องลังเลหรือเกรงใจใดๆ ทั้งสิ้น!
หากคุณได้นำเคล็ดลับข้างต้นไปปรับประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันแล้วล่ะก็ เรารับรองเลยว่าทั้งคุณและเพื่อนบ้านหรือเพื่อนข้างห้อง จะต้อง Happy อย่างแน่นอน และสำหรับใครที่กำลังมองหาโครงการคอนโดทำเลสวยเพื่อเช่า/ซื้อคุณก็สามารถเข้าไปเลือกชมโครงการคอนโดกว่า 4,000 โครงการ ทั่วประเทศได้ที่ Propertyhub เว็บไซต์ค้นหาโครงการคอนโดที่มาแรงมากที่สุดแห่งยุค!