การมีสัตว์เลี้ยงนั้นไม่เพียงแต่เป็นการเพิ่มสมาชิกใหม่ในครอบครัว แต่ยังเป็นการเพิ่มความรับผิดชอบที่ต้องใส่ใจในหลาย ๆ ด้าน ซึ่งก็รวมไปถึงความพร้อมในการเตรียมที่อยู่อาศัยให้เหมาะสมกับสัตว์เลี้ยงแต่ละชนิด เพื่อให้พวกเขาได้รู้สึกมีความสุขกับบ้านหลังใหม่ได้มากที่สุด ดังนั้นการตรวจสอบขนาดที่อยู่อาศัยก่อนการตัดสินใจมีสัตว์เลี้ยงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ เพราะถ้าขนาดที่อยู่อาศัยไม่เหมาะกับสัตว์เลี้ยงขึ้นมา ปัญหาทางด้านสุขภาพและความเครียดในสัตว์เลี้ยง มันคงจะเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน และมันก็คงจะไม่ใช่เรื่องที่ดีสำหรับการเลี้ยงสัตว์มากสักเท่าไหร่นัก ฉะนั้นเรามาเช็คให้ชัวร์กันก่อนดีกว่าว่าขนาดที่อยู่อาศัยของเราเหมาะสมกับการเลี้ยงสัตว์มากน้อยขนาดไหน
1. ขนาดพื้นที่และความสะดวกสบาย
พื้นที่ภายใน
ขนาดพื้นที่ภายในบ้านหรือคอนโดเป็นปัจจัยที่สำคัญในการเลือกสัตว์เลี้ยง ซึ่งคุณควรจะพิจารณาว่าพื้นที่ที่มีอยู่เพียงพอสำหรับการเคลื่อนไหวและการพักผ่อนของสัตว์เลี้ยงหรือไม่ ? โดยสัตว์เลี้ยงขนาดใหญ่จะต้องการพื้นที่มากกว่าเพื่อให้สามารถเคลื่อนไหวได้สะดวก รู้สึกเป็นอิสระ ไม่อุดอู้ และในขณะที่สัตว์เลี้ยงขนาดเล็กอาจต้องการพื้นที่น้อยกว่า แต่ยังคงต้องมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการวิ่งเล่นหรือออกกำลังกายภายในที่อยู่อาศัย แต่ในกรณีที่คุณพักอาศัยอยู่ภายในคอนโด การเลี้ยงสัตว์อย่างสุนัขพันธุ์ใหญ่ก็อาจจะไม่ตอบโจทย์มากสักเท่าไหร่นัก ต่อให้จะเป็นคอนโด Pet Friendly ก็ตาม เพราะพื้นที่ภายในห้องอาจจะไม่เพียงพอที่จะทำให้น้อง ๆ รู้สึกถึงความอิสระ และยิ่งถ้าคุณไม่มีเวลาพาน้อง ๆ ออกไปเดินเล่นตามสมควร ก็อาจจะทำให้น้อง ๆ เกิดสภาวะเครียดเอาได้ (ไม่รวมในกรณีที่คุณจะซื้อคอนโดแบบ Penthouse ที่มีพื้นที่ภายในค่อนข้างที่จะกว้างขวาง)
พื้นที่ภายนอก
หากคุณมีสวนหรือพื้นที่บริเวณนอกบ้าน ก็ให้พิจารณาว่าพื้นที่นั้นมีความปลอดภัยต่อสัตว์เลี้ยงมากน้อยขนาดไหน ? เช่น ถ้าหากเป็นสนามหญ้าที่มีรอบรั้วขอบชิด ก็เหมาะกับการเลี้ยงสุนัขทุกสายพันธุ์เพราะพวกเขาจะสามารถปล่อยพลังวิ่งเล่นหรือออกกำลังกายได้อย่างเต็มที่ แต่ถ้าหากเป็นบ้านหรือทาวน์โฮมติดริมถนน คุณก็อาจจะต้องมองหาสัตว์เลี้ยงที่ไม่ต้องการพื้นที่ภายนอกหรือสัตว์เลี้ยงที่อยู่ภายในบ้านเป็นส่วนใหญ่ และในกรณีที่คุณพักอาศัยอยู่ภายในคอนโดที่เป็น Pet Friendly ก็อย่าลืมตรวจสอบว่าพื้นที่ส่วนกลางมีสนามให้น้อง ๆ วิ่งเล่นหรือไม่ ? มีมาตรการดูแลพื้นที่ส่วนรวมเป็นอย่างไร ?
2. ประเภทของสัตว์เลี้ยง
สุนัข
สุนัขแต่ละสายพันธุ์มีขนาดและความต้องการที่แตกต่างกัน สุนัขพันธุ์ใหญ่ต้องการพื้นที่มากกว่าสุนัขพันธุ์เล็ก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสุนัขพันธุ์เล็กบางพันธุ์ก็ต้องการพื้นที่สำหรับปล่อยพลังเช่นกัน เช่น เฟรนช์ บูลด็อก (French bulldog), บีเกิ้ล (Beagle), บูลเทอร์เรีย (Bull Terrier) ฯลฯ เรียกได้ว่าสุนัขพันธุ์เล็กเหล่านี้บ้าพลังไม่แพ้สุนัขพันธุ์ใหญ่เลยทีเดียว หรือเรียกง่าย ๆ ว่าก่อนที่จะตัดสินใจรับน้อง ๆ มาเลี้ยง อย่าลืมทำความรู้จักและทำความเข้าใจกับสายพันธุ์น้อง ๆ ให้ดีเสียก่อน เพื่อที่คุณจะได้นำมาพิจารณาว่าพื้นที่เพียงพอต่ออุปนิสัยส่วนตัวของน้อง ๆ หรือไม่
แมว
น้องแมวต้องการพื้นที่สำหรับการปีนป่ายและนอนพักผ่อน(เป็นเจ้านายอ่ะเนอะ) รวมไปถึงน้องแมวส่วนใหญ่ก็มักจะมีนิสัยรักสันโดษ จึงควรมีพื้นที่ที่สามารถตั้งชั้นวางหรือที่ปีนป่ายให้แมวได้ใช้ รวมถึงมีที่ที่เงียบสงบสำหรับการพักผ่อน ซึ่งสามารถใช้พื้นที่ส่วนเล็ก ๆ ภายในบ้าน คอนโดหรือหอพัก เอาไว้สำหรับตั้งที่ข่วนเล็บ ถาดทรายแมว ฯลฯ ได้โดยไม่กินพื้นที่ส่วนอื่น ๆ มากสักเท่าไหร่นัก อีกทั้งการเลี้ยงน้องแมวจะใช้พื้นที่ไม่มากเท่ากับสุนัขที่มักจะมีนิสัย Alert อยู่ตลอดเวลา
กระต่ายและสัตว์เล็กอื่น ๆ
สัตว์เลี้ยงที่มีขนาดเล็ก เช่น กระต่าย หนูแฮมสเตอร์ กระรอก นก ปลา ฯลฯ เป็นสัตว์เลี้ยงที่สามารถเลี้ยงได้ในที่พักอาศัยแทบจะทุกรูปแบบเพราะใช้ขนาดพื้นที่น้อย แต่ขอเพียงแค่วางตำแหน่งและเลือกขนาดกรงให้เหมาะสมกับน้อง ๆ ก็เพียงพอแล้ว
3. การจัดเตรียมพื้นที่
หากมีพื้นที่จำกัดควรพิจารณาวิธีการปรับปรุงพื้นที่ให้เหมาะสมกับสัตว์เลี้ยง เช่น การใช้พื้นที่แนวตั้งสำหรับแมว การสร้างพื้นที่วิ่งเล่นสำหรับสุนัขหรือการจัดการพื้นที่สำหรับสัตว์เล็กให้มีความปลอดภัยและเหมาะสม
4. การประเมินความพร้อม
ความพร้อมทางการเงิน
ความพร้อมทางการเงินคือสิ่งสำคัญสำหรับการเลี้ยงสัตว์ ดังนั้นก่อนตัดสินใจที่จะนำน้อง ๆ มาเลี้ยง คุณจำเป็นที่จะต้องมีความพร้อมทางด้านการเงินพอสมควร เพราะนอกเหนือจากค่าตัวของน้อง ๆ แล้วยังมีค่าวัคซีน ค่ารักษาพยาบาล ค่าอาหาร ค่าของเล่น ฯลฯ ทั้งนี้ทุก ๆ ค่าใช้จ่ายล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยทำให้น้อง ๆ มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความสุขมากที่สุดนั่นเอง
ความพร้อมในเรื่องของเวลา
อีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญที่คุณจะต้องคิดให้ดีก่อนนำสัตว์มาเลี้ยงเลยก็คือ “เวลาและความรับผิดชอบ” เพราะการเลี้ยงสัตว์คุณจำเป็นที่จะต้องใช้เวลาในการดูแลพวกน้อง ๆ ไม่ว่าจะเป็นพาเขาออกไปเดิน พาไปออกกำลังกายหรือแม้แต่แบ่งเวลามาเล่น มาลูบ มากอดพวกเขา เพราะอย่าลืมว่าสัตว์เลี้ยงก็มีความรู้สึก
ความรับผิดชอบ
ความรับผิดชอบในที่นี้หมายถึงความรับผิดชอบต่อสัตว์เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็น การให้อาหาร การพาน้อง ๆ ไปพบคุณหมอประจำปี การดูแลรักษาเมื่อยามที่เขาป่วยไข้ ฯลฯ ซึ่งถ้าหากคุณยังไม่พร้อมในเรื่องนี้โครงการที่อยากจะนำสัตว์มาเลี้ยงก็อาจจะต้องเลื่อนไปก่อนจะดีกว่า เพราะเมื่อไหร่ที่คุณขาดความรับผิดชอบขึ้นมา น้อง ๆ คงจะไม่ต่างอะไรกับสิ่งของที่โดนทิ้งขว้าง อีกทั้งความรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม เช่น การรักษาความสะอาดเมื่อพาน้อง ๆ ออกนอกบ้าน การดูแลและควบคุมน้อง ๆ ไม่ให้ออกไปสร้างความเดือดร้อนให้กับบุคคลอื่น โดยเฉพาะสุนัขสายพันธุ์ดุ ส่งผลให้ความรับผิดชอบจึงกลายเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่คุณไม่ควรจะมองข้าม
การเลี้ยงสัตว์ใคร ๆ ก็เลี้ยงได้ แต่การเลี้ยงสัตว์ให้มีคุณภาพก็จำเป็นที่จะต้องวางแผนตั้งแต่เริ่ม ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของพื้นที่ ความรับผิดชอบ การทำความเข้าใจและรู้จักกับสายพันธุ์สัตว์ที่ต้องการเลี้ยง ฯลฯ ทั้งนี้ก็เพื่อให้การเลี้ยงสัตว์ของคุณเต็มไปด้วยช่วงเวลาแห่งความสุขอย่างแท้จริง และทีมงานก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้คงจะเป็นประโยชน์ให้แก่ผู้ที่กำลังจะเลี้ยงสัตว์ได้ไม่มากก็น้อย และไว้โอกาสหน้าเราจะนำข้อมูลดี ๆ อะไรมาฝากอีก คุณก็สามารถติดตามได้ที่ Propertyhub Blog : บทความที่รวบรวมทุก Lifestyle เกี่ยวกับอสังหาฯ