สำหรับโครงการช้อปดีมีคืน 2566 ถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับผู้เสียภาษีทุกท่าน ซึ่งโครงการนี้ทางรัฐบาลจัดขึ้นเพื่อช่วยเหลือและกระตุ้นการไหลเวียนเงินเพื่อเศรษฐกิจภายในประเทศ และหากใครที่ต้องเสียภาษีอยู่แล้วสามารถเข้าร่วมโครงการนี้ได้ง่ายๆ จากการซื้อหรือเก็บใบกำกับภาษีจากการใช้จ่ายสินค้าในหมวดที่ร่วมโครงการ และนำส่งใบเสร็จหรือใบกำกับภาษีในช่วงสิ้นปีเพื่อลดหย่อนและขอคืนเงินภาษีนั่นเอง สำหรับรายละเอียดหลักๆ ผมขออภิบายให้เข้าใจง่ายๆ ดังนี้ครับ
ระยะเวลาโครงการช้อปดีมีคืน 2566
ระยะเวลาในการร่วมโครงการช้อปดีมีคืน 2566 คือ วันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566
สินค้าที่ร่วมโครงการ ช้อปดีมีคืน 2566
สินค้าและบริการที่ไม่เข้าเงื่อนไข ช้อปดีมีคืน 2566
ค่าสุรา เบียร์ ไวน์
ค่ายาสูบ
ค่าน้ำมันและก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ
ค่ารถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ
ค่าหนังสือพิมพ์และนิตยสารและค่าบริการ หนังสือพิมพ์ และนิตยสารที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต
ค่าบริการจัดนำเที่ยวที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว และมัคคุเทศก์
ค่าที่พักในโรงแรมที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม
ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า
ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย
ค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์
ค่าบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต
นำไปใช้ลดหย่อนภาษีได้เท่าไร?
ใบเสร็จจากการซื้อสินค้าที่ร่วมโครงการช้อปดีมีคืน 2566 นั้นสามารถนำไปใช้ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ตามที่จ่ายจริง ซึ่งมีการกำหนดเพดานไว้ด้วยที่ ไม่เกิน 40,000 บาท ซึ่งมีรายละเอียดภายใต้เพดานดังนี้
30,000 บาท แรก ของการร่วมโครงการช้อปดีมีคืน 2566
สำหรับยอดเงินใน 30,000 บาท แรกนั้นจะต้องมีใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ ในรูปแบบกระดาษ หรือว่า e-Tax invoice & e-Recipt ของกรมสรรพากร
10,000 บาท หลัง ของการร่วมโครงการช้อปดีมีคืน 2566
สำหรับยอดเงินใน 10,000 บาท หลังนั้นจะต้องมีใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ ในรูปแบบ e-Tax invoice & e-Recipt ของกรมสรรพากร
*ต่างกันตรงที่ 10,000 บาท หลังไม่ต้องมีรูปแบบกระดาษครับ
มาตรการช้อปดีมีคืน 2566 เป็นการใช้จ่ายในช่วงระยะเวลาโครงการฯ ตามที่กำหนด ซึ่งสามารถใช้ได้กับการลดหย่อนภาษี 2566 ซึ่งเป็นการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในช่วงต้นปี 2567 เท่านั้น ไม่สามารถซื้อของและใช้ยื่นภาษีในช่วงต้นปี 2566 ได้ครับ
วิธีคำนวณลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
เงินได้สุทธิไม่เกิน 150,000 บาท ฐานภาษีฯเงินได้ ยกเว้นภาษี เงินภาษีคืนสูงสุด (กรณีจ่าย 40,000 บาท) = 0 บาท
เงินได้สุทธิ 150,001-300,000 บาท ฐานภาษีฯเงินได้ 5% เงินภาษีคืนสูงสุด (กรณีจ่าย 40,000 บาท) = 2,000 บาท
เงินได้สุทธิ 300,001-500,000 บาท ฐานภาษีฯเงินได้ 10% เงินภาษีคืนสูงสุด (กรณีจ่าย 40,000 บาท) = 4,000 บาท
เงินได้สุทธิ 500,001-750,000 บาท ฐานภาษีฯเงินได้ 15% เงินภาษีคืนสูงสุด (กรณีจ่าย 40,000 บาท) = 6,000 บาท
เงินได้สุทธิ 750,001-1,000,000 บาท ฐานภาษีฯเงินได้ 20% เงินภาษีคืนสูงสุด (กรณีจ่าย 40,000 บาท) = 8,000 บาท
เงินได้สุทธิ 1,000,001-2,000,000 บาท ฐานภาษีฯเงินได้ 25% เงินภาษีคืนสูงสุด (กรณีจ่าย 40,000 บาท) = 10,000 บาท
เงินได้สุทธิ 2,000,001-5,000,000 บาท ฐานภาษีฯเงินได้ 30% เงินภาษีคืนสูงสุด (กรณีจ่าย 40,000 บาท) = 12,000 บาท
เงินได้สุทธิ 5,000,001 ขึ้นไป ฐานภาษีฯเงินได้ 35% เงินภาษีคืนสูงสุด (กรณีจ่าย 40,000 บาท) = 14,000 บาท
หลักฐานสำหรับการยื่นลดหย่อนภาษี "ช้อปดีมีคืน 2566"
ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปแบบกระดาษ (สำหรับ 30,000 บาท แรกเท่านั้น)
ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (30,000 บาทแรก เลือกอย่างใดอย่างนึงระหว่างกระดาษกับแบบอิเล็กทรอนิกส์ แต่ 10,000 บาทหลังต้องมีเป็นอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น)
ใบเสร็จรับเงิน
ทุกท่านสามารถเริ่มขอใบเสร็จ และใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 15 กุมภาพันธ์ 2566 เพื่อสะสมสิทธิของท่านในการร่วมโครงการช้อปดีมีคืน และใช้ลดหย่อนภาษีจากการใช้จ่ายที่เกิดขึ้นของท่านครับ
หากใครชอบบทความดีๆ แบบนี้สามารถติดตามข่าวสาร และอ่านบทความดีๆ ของ Propertyhub ได้เลยครับ