สิ่งที่ชาวคอนโดอย่างเราอาจจะต้องพบเจอ(แม้จะไม่อยากจะเจอเลยก็ตาม) นั่นก็คือ “การติดลิฟต์” ซึ่งแม้ว่าระบบรักษาความปลอดภัยของโครงการคอนโดจะดีมากสักแค่ไหนแต่เหตุฉุกเฉินนี้ก็อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ดังนั้นการรู้วิธีรับมือเมื่อติดลิฟต์จึงกลายเป็นสิ่งที่ชาวคอนโดอย่างเราจะต้องศึกษาไว้เบื้องต้น และแน่นอนว่าทีมงาน Propertyhub จึงได้รวบรวมการรับมือเมื่อติดลิฟต์มาฝาก โดยวิธีรับมือเมื่อติดลิฟต์วิธีที่ 1 เลยก็คือ...
ตั้งสติให้ดีอย่าพึ่งสติหลุด!
เมื่อเกิดเหตุติดลิฟต์ขึ้นมา สิ่งที่คุณจะต้องทำเป็นอย่างแรกเลยก็คือ “ตั้งสติ” เพราะเราอยากให้คุณทำความเข้าใจก่อนว่าการที่ลิฟต์ค้างนั้นไม่ได้มีอันตรายแต่อย่างใด ซึ่งเมื่อตั้งสติได้แล้วให้คุณสังเกตว่าตัวลิฟต์นั้นหยุดนิ่งหรือกำลังเลื่อนไหลลงสู่ด้านล่างและตรวจสอบว่าตอนนี้คุณอยู่ชั้นที่เท่าไหร่ ? มีผู้ที่ติดอยู่ในลิฟต์กี่คน ? เพื่อที่คุณจะได้แจ้งรายละเอียดต่างๆ กับบุคคลภายนอกได้อย่างครบถ้วน รวมไปถึงเมื่อไฟภายในลิฟต์ดับก็ให้คุณใช้แสงสว่างจากมือถือในการมองหาปุ่มกดขอความช่วยเหลือหรือโทรเพื่อขอรับความช่วยเหลือ(เปิดโหมดประหยัดแบตเตอรี่ไว้ด้วยล่ะ)
อย่าพึ่งตกใจเมื่อลิฟต์ไหลลงมา
สำหรับกรณีที่ลิฟต์ไหลลงมานั้น(ไม่ใช่ลิฟต์ตก) เราก็ขอให้คุณอย่าพึ่งตกใจ เนื่องจากลิฟต์ทุกตัวจะมีระบบป้องกันความปลอดภัยซึ่งเป็นอุปกรณ์ดักจับความเร็ว โดยถ้าลิฟต์เคลื่อนตัวด้วยความเร็วเกินที่ระบบกำหนดจะมีการล็อกให้ลิฟต์หยุดในทันที แต่ถ้าหากลิฟต์ไหลลงมาเรื่อยๆ ก็อาจจะมีการกระแทกกับพื้นด้านล่างเพียงเบาๆ ไม่เป็นอันตรายต่อผู้อยู่ในลิฟต์(ลิฟต์จะมีระบบถ่วงดุลน้ำหนักทำให้ไหลลงมาอย่างช้าๆ) เพราะฉะนั้นผู้ที่ติดลิฟต์จึงไม่ต้องเป็นกังวลใจ ค่อยๆ หาที่เกาะแล้วจับให้แน่น ไม่ต้องนอน ไม่ต้องนั่ง ไม่ต้องงอเข่า หรือทำใดๆ ทั้งสิ้น
กดปุ่มฉุกเฉิน
เมื่อตั้งสติได้แล้ว สิ่งที่คุณจะต้องทำต่อมาเลยก็คือ “กดปุ่มฉุกเฉิน” ซึ่งปุ่มฉุกเฉิน(Emergency Call) จะมีอยู่ในลิฟต์ทุกตัว หรือในฟต์บางตัวจะมีปุ่ม Talk(เป็นรูปโทรศัพท์) ก็ให้คุณไปกดปุ่มดังกล่าวเพื่อสื่อสารกับบุคคลภายนอก ซึ่งถ้ายังไม่มีการตอบรับ ก็ให้คุณกดไปเรื่อยๆ เป็นระยะ ไม่จำเป็นที่จะต้องกดถี่ๆ
ประหยัดอากาศภายในลิฟต์ให้มากที่สุด
สิ่งที่เราอยากจะให้คุณจำให้ขึ้นใจเมื่อเกิดเหตุติดลิฟต์ขึ้นมาเลยก็คือ “ให้คุณประหยัดอากาศภายในลิฟต์ให้มากที่สุด” เพราะถ้าหากลิฟต์ที่คุณติดไม่มีไฟสำรอง พัดลมระบายอากาศที่อยู่ด้านบนจะหยุดทำงานในทันที ส่งผลให้อากาศไม่สามารถถ่ายเทได้ ดังนั้นให้คุณหายใจช้าๆ งดการพูดคุย อยู่เฉยๆ อย่าทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรง รวมไปถึงใครที่ใส่เสื้อผ้าหนาๆ ก็ให้ถอดออกเพื่อไม่ให้เกิดการร้อนอบอ้าว
ห้ามงัดแงะประตูลิฟต์และใจร้อนอย่างเด็ดขาด!
บางคนเมื่อติดลิฟต์แล้วเกิดสติแตกจนพยายามงัดประตูลิฟต์หรือกดปุ่มขอความช่วยเหลือรัวๆ เราขอบอกเลยว่านั่นคือพฤติกรรมที่จะทำให้คุณเข้าใกล้กับความอันตรายมากยิ่งขึ้น! เนื่องจากการงัดแงะประตูลิฟต์หรือการกดปุ่มขอความช่วยเหลือแบบรัวๆ อาจจะทำให้ระบบไฟฟ้าหรือแผงควบคุมอิเล็กทรอนิคเกิดการขัดข้องจนทำให้เจ้าหน้าที่ด้านนอกเข้ามาช่วยเหลือคุณได้ลำบากมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
ห้ามนั่งหรือนอนในลิฟต์
ใครที่คิดว่าเมื่อติดลิฟต์แล้วจะต้องนั่งหรือนอน เราขอบอกเลยว่าคุณคิดผิด! เพราะในความเป็นจริงแล้ว เมื่อเกิดเหตุลิฟต์ค้างเป็นเวลานานก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จะลอยลงสู่ที่ต่ำ ซึ่งถ้าคุณนั่งหรือนอนก็รับรองเลยว่าก๊าซพิษจะเข้าไปสู่ร่างกายของคุณ และอาจจะทำให้คุณมีอาการหน้ามืด หายใจติดขัดหรือถึงขั้นหมดสติเอาได้ ดังนั้นเมื่อรู้ตัวว่าติดลิฟต์ให้คุณยืนพิงผนังลิฟต์ไว้จะดีที่สุด
สิ่งที่สำคัญมากที่สุดหากคุณติดลิฟต์ขึ้นมาเลยก็คือ “สติ” อย่างพึ่งใจร้อน อย่าพึ่งตื่นตูม อย่าพึ่งตกใจ ค่อยๆ ทำตามวิธีรับมือตามที่เราได้กล่าวไปข้างต้น มันก็จะช่วยให้คุณสามารถออกมาจากในลิฟต์ได้อย่างปลอดภัย อีกทั้งวิธีรับมือดังกล่าวยังสามารถนำไปใช้ได้กับเหตุการณ์ติดลิฟต์ได้ทุกที่ทั่วโลก ซึ่งในโอกาสหน้าทีมงาน Propertyhub จะมีข้อมูลอะไรมาฝากชาวคอนโดอีก คุณก็สามารถติดตามพวกเราได้ที่ Propertyhub Blog