เชื่อว่าชาวคอนโดที่กำลังมองหาฟิล์มติดกระจกคอนโด อาจมีข้อสงสัยกันว่า ฟิล์มติดคอนโดหรือฟิล์มติดอาคาร กับฟิล์มรถยนต์แตกต่างกันอย่างไร สามารถใช้แบบเดียวกันได้หรือไม่ ยิ่งใครที่มีรถเป็นของตัวเองแล้วไปติดฟิล์มกรองแสงตามศูนย์บริการ ส่วนใหญ่แทบไม่เคยบอกว่าใช้ฟิล์มอะไรมาติด วันนี้ Autospinn มีคำตอบในเรื่องนี้มาฝากกัน
ฟิล์มติดอาคาร (ฟิล์มติดคอนโด) กับฟิล์มติดรถยนต์ แตกต่างกันอย่างไร
จริงๆ แล้วฟิล์มติดอาคาร (ฟิล์มติดคอนโด) กับฟิล์มติดรถยนต์ สามารถแยกความแตกต่างออกมาเป็นข้อๆ ได้ดังนี้
1. ฟิล์มติดรถยนต์ติดตั้งได้ทั้งรถยนต์และอาคาร แต่ฟิล์มติดอาคารติดตั้งรถยนต์ไม่ได้!
ฟิล์มติดรถยนต์สามารถติดตั้งแทนกันได้ เนื่องจากคุณภาพของฟิล์มกรองแสงแตกต่างกันน้อยมากๆ โดยฟิล์มติดอาคารไม่สามารถติดกับรถยนต์ได้ เพราะต้องเป่าฟิล์มให้โค้งตามกระจกรถยนต์ แต่ฟิล์มติดอาคารไม่ได้ถูกออกแบบให้โดนเป่าโค้ง เมื่อนำฟิล์มติดอาคารไปติดกระจกรถ จะเป่าฟิล์มได้ยาก งานไม่เนี๊ยบ หรือเสียหายชนิดที่ฟิล์มไม่แนบสนิทตามส่วนโค้งเว้าของกระจกรถ นอกจากนี้ ฟิล์มติดอาคารจะมีชั้นที่หนากว่า ซึ่งความหนาขั้นต่ำควรอยู่ที่ 2 มม. ขึ้นไป
ดังนั้น ยี่ห้อฟิล์มกรองแสงที่เห็นกันในท้องตลาดมักจะขายฟิล์มรถยนต์มากกว่า เพราะสามารถติดตั้งครอบคลุมได้ทั้งอาคาร (คอนโด) หรือรถยนต์นั่นเอง ยิ่งในปัจจุบัน ฟิล์มติดรถยนต์ถูกพัฒนาให้สามารถติดกระจกรถยนต์ได้นานขึ้น ทนทานมากขึ้น
หากจะไปติดตั้งอาคารก็ทำได้ไม่มีปัญหา เช่น ฟิล์มนาโนเซรามิกที่มีคุณสมบัติป้องกันความร้อนสูงและทนทาน ก็นำมาติดอาคารได้เหมือนกัน
2. ฟิล์มอาคารบางชนิด มีคุณสมบัติสะท้อนแสงมากกว่าฟิล์มรถยนต์
ผู้อยู่อาศัยในคอนโดมีเนียม มักต้องการความเป็นส่วนตัวสูงมาก ทำให้หลายๆ คนเลือกฟิล์มติดบ้านที่สะท้อนแสงและป้องกันการมองเห็นจากด้านนอกมากกว่าฟิล์มติดรถยนต์ แต่การสะท้อนแสงของฟิล์มติดอาคารสูงสุด บางแห่งห้ามติดฟิล์มกระจกเข้มเกิน 60% หรือบางที่ห้ามติดฟิล์มปรอทสะท้อนแสงเกิน 20% ทางที่ดี ควรสอบถามนิติบุคคลของคอนโดเพื่อความชัดเจนก่อนติดฟิล์ม
ส่วนฟิล์มติดรถยนต์ ตามกฎหมายจราจร ห้ามติดฟิล์มสะท้อนแสงเกิน 30% แต่ถ้าติดฟิล์มเข้มเกิน 80 ไม่ผิดกฎหมายจราจรแต่อย่างใด ส่วนการป้องกันความร้อนหรือการสะท้อนแสงมากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับเกรดฟิล์มและยี่ห้อ ตามงบประมาณของแต่ละคน
3. ฟิล์มติดอาคารให้การรับประกันที่ยาวนานกว่า
ฟิล์มติดอาคารจะมีการรับประกันที่นานกว่า เพราะอาคารหรือคอนโดไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ จึงมีด้านที่โดนแดดทั้งวัน อีกทั้งภายในคอนโดความชื้นมากกว่าภายในรถยนต์ ทำให้วัสดุของฟิล์มติดอาคารมีความหนากว่า เหนียวทนทานและทนแดดทนฝนมากกว่าฟิล์มติดรถยนต์ จึงต้องผลิตเนื้อฟิล์มที่ทนกว่า ดังนั้น การรับประกันของฟิล์มติดอาคารจะอยู่ที่ประมาณ 5-10 ปี บางยี่ห้อยาวนานถึง 15 ปี (ขึ้นอยู่กับคุณภาของเนื้อฟิล์ม ราคา และแบรนด์) ส่วนฟิล์มติดรถยนต์ ส่วนใหญ่จะรับประกัน 3-7 ปี (ขึ้นอยู่กับคุณภาพผลิตภัณฑ์และแบรนด์)
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าฟิล์มติดอาคารจะดีกว่าฟิล์มติดรถยนต์ทั้งในเรื่องความทนทานของวัสดุ หรือความหนา แต่ถ้าจะให้ติดฟิล์มรถยนต์ ควรติดฟิล์มกรองแสงสำหรับรถยนต์โดยเฉพาะ เนื่องจากมีความบางและยืดหยุ่นมากกว่า เมื่อติดตั้งบนกระจกรถ จะต้องใช้ลมร้อนเป่าให้โค้งเว้าตามกระจกรถ เวลามองจากภายนอกแลดูสวยงาม ที่สำคัญ ฟิล์มติดรถยนต์จะต้องสะท้อนแสงน้อยกว่าฟิล์มติดอาคาร เพราะเมื่อขับขี่บนท้องถนน หากค่าสะท้อนแสงเยอะ จะทำให้แสงสะท้อนไปยังรถคันอื่นๆ
อาจเกิดอันตรายในการใช้รถใช้ถนนได้
ทั้งนี้ ฟิล์มติดรถยนต์คุณภาพต่ำ เช่น ฟิล์มดำย้อมสี แนะนำว่า ไม่ควรไปติดตั้งบนอาคารหรือคอนโดโดยเด็ดขาด เพราะจะเสื่อมสภาพไวมาก ไม่สามารถกันความร้อนได้จริง หรือภายนอกสามารถมองเห็นห้องในคอนโดได้ ดังนั้นหากจะนำฟิล์มติดรถยนต์มาติดอาคารหรือคอนโด ต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเป็น case-by-case
ติดตามรีวิวรถออกใหม่ เช็คราคาและตารางผ่อนรถยนต์ รถจักรยานยนต์ พร้อมอัปเดตข่าวสารในวงการรถยนต์ก่อนใคร ที่เว็บไซต์ Autospinn หรือจะค้นหารถมือสอง ราคาโดน ๆ พร้อมโปรโมชั่นที่น่าสนใจ ต้องนึกถึง one2car ตลาดซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย